Likee

เอาแล้ว !! เตรียมตัวรวยแด้อ !มีเหรียญ 10 บาท แบบนี้.รับชื้อ ราคา สูงถึง “หนึ่งแสนบาท” เลยเชียวนะ มีคลิป


ความจริงของเหรียญ 10 บาท ปี ๒๕๓๓


เตรียมตัวรวยกันอีกครั้ง เหรียญ 10 บาทมีค่ามาก ถึง 1 แสนบาทเลยทีเดียว  สำกรับใครที่ชอบเป็นนักสะสมรีบเปิดกระปุกออกมาดูกันด่วน  คุณอาจจะเป็นเศรษฐีคนใหม่ก็ได้  เมื่อ คุณปุญณพัฒน์ สิรเรืองวานิช เจ้าของร้าน ปาหนันจิวเวลรี่ อำเภอปลวกแดง จ.ระยอง  โพสต์ข้อความรับซื้อเหรียญ 10 บาท ที่ผลิตในพ.ศ.2533 ราคาเหรียญละ 1 แสนบาท



ขณะนี้กลายเป็นกระแสฮือฮากระอีกครั้ง  ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือคนทั่วไป ก็ต่างเร่งหาเหรียญ 10 บาทกันหลังจากมีข่าวการรับซื้อเหรียญสิบ ปี 2533 ด้วยราคาสูงถึง 1 แสนบาท ถึงแม้จะหาได้ยาก แต่พวกเค้าก็ยังไม่รึความหวังยังตรวจสอบทุกเหรียญที่ผ่าน­มือ เพื่อหาเหรียญ 10 บาทที่ผลิตในปี พ.ศ.2533 แต่เหรียญ 10 บาทที่ผลิตในปีนี้มีเพียง 100 เหรียญเท่านั้น  แม้ความหวังจะน้อยนิด ยังไงก็สู้กันต่อไป เพื่อเศรษฐีคนใหม่ในอนาคต










เจ้าของร้าน ปาหนันจิวเวลรี่ อำเภอปลวกแดง จ.ระยอง นายปุญณพัฒน์ สิรเรืองวานิช อายุ 27 ปี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กรับซื้อเหรียญ 10 บาท ที่ผลิตในพ.ศ.2533 ราคาเหรียญละ 1 แสนบาท

มอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือแม้แต่ผู้คนปกติ ทั่วไป ที่รับและทอนเหรียญสิบบาทเป็นประจำ ท่าทางของพวกเค้าเปลี่ยนไป หลังมีข่าวการรับซื้อเหรียญสิบ ปี 2533 ด้วยราคาสูงถึง 1 แสนบาท แม้ความหวังที่จะเจอเหรียญจะน้อยเต็มที่ แต่พวกเค้าก็ยังคงตรวจสอบทุกเหรียญที่ผ่านมือ ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เหรียญ 10 บาทที่ผลิตในปี พ.ศ.2533 มีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของนักสะสมของเก่าคือ เหรียญ 10 บาทที่ผลิตในปีนี้มีเพียง 100 เหรียญเท่านั้น

ร่วมพูดคุยกับ นายปุญณพัฒน์ สิรเรืองวานิช เจ้าของร้านปาหนันจิวเวลรี่ และอธิบดีกรมธนารักษ์นายนริศ ชัยสูตร ถึงข้อเท็จจริงของเหรียญ 10 บาท ปี ๒๕๓๓
https://www.yoube.com/watch 

ที่มา: http://raksocialnews.blogspot.kr/2016/09/5-2525-4-10-2.html

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชุมแพ จังหวัด ขอนแก่น รับแจ้งเหตุเกิดอุบัติเหตุรถชนบนถนน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเด็กชายจำนวน 3 คนอายุ 9  – 13 ปี นอนสลบอยู่กลางถนน กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจโดย 2 คน ร่างกายได้ตอบสนอง ส่วนอีกรายไม่ได้สติ นำส่งโรงพยาบาลกระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ห่างออกไปพบคนขับรถกระบะทราบชื่อคือ นายสะเทือน อินปัญญา อายุ 39 ปี คนขับ ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่



จากการสอบปากคำ คนขับให้การว่า “ตนพร้อมครอบครัวมาจากอำเภอสีชมพู กำลังจะพากันไปห้างเทสโก้โลตัส เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางแยก ตนอยู่ในเลนซ้ายสุดซึ่งเป็นสัญญาณไฟเขียว ตนจึงเร่งเครี่องไปตามปกติ โดยที่ไม่ได้จอดเพราะเป็นทางตรง ซึ่งในขณะนั้นไม่ทราบว่ามีเด็กกำลังข้ามถนนอยู่ข้างหน้า เนื่องจากรถเลนกลางบังอยู่ จึงมองไม่เห็น ทำให้รถของตนพุ่งชนเด็กทั้ง 3 คน” ทั้งนี้คาดว่าเด็กทั้ง 3 คน คงจูงมือกันข้ามถนนเมื่อเดินมาใกล้ถึงเลนซ้ายสุด สัญญาณไฟเขียวคงขึ้นพอดี รถทางซ้ายที่ขับมาด้วยความเร็วไม่ได้หยุดรถและมองไม่เห็นจึงได้พุ่งชนอย่างจัง


ที่มา:  http://www.kanomjeeb.com/news-details.php?item=7290